Loader
↑ ↓

Knotthailand Forum

หน้าหลัก ราคาซัพพอท ซื้อโปรแกรม
  • Log in
  • Sign up
Main Menu
  • หน้าแรก
  • ค้นหา
  • Gallery
  • Knotthailand Forum
  • ► BOX UFS EMMC
  • ► F64 ULTRA
  • ► เทคนิค โม ISP ให้แรงๆ
      Your Website Title    
    Banner 1     Banner 2  
 
 
 

เทคนิค โม ISP ให้แรงๆ

ผู้โพสต์ Admin, มิ.ย 19, 2025, 12:49 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

พิมพ์
ลง หน้า1
การกระทำของผู้ใช้
  • Admin

  • *****
  • Administrator
  • Hi i'm KNOTTHAILAND
  • ช่างโปรกว่าโปรซะอีก
  • กระทู้: 563
    1. nevername
  • Facebook: Knots Kriangsak
  • บันทึก
เทคนิค โม ISP ให้แรงๆ
มิ.ย 19, 2025, 12:49 ก่อนเที่ยง แก้ไขล่าสุด: ก.ค 24, 2025, 05:10 ก่อนเที่ยง โดย Admin







Credit ISP Modify By Nguyễn Diện
UFS : Remove r27, r30 . Add 10R to switch / R2 R3 R4 R5 change to 22 ohm
Option 1 : 10R support ufs qualcomm and exynos old ( samsung a50 a50s a51)
Option 2 : 0R then off support exynos new ( note 10 s24 s21...)

## ทำไมถึง "ห้าม" ต่อสาย TX ลงกราวด์?
เหตุผลง่ายๆ แต่สำคัญมากคือ สาย TX (Transmit) คือขา "ส่ง" สัญญาณ ซึ่งเป็น Output ที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา การนำขา Output ไปต่อลงกราวด์โดยตรงก็เหมือนกับการสร้าง "ไฟฟ้าลัดวงจร" (Short Circuit) ครับ

เมื่อโปรแกรมเมอร์ (เช่น UFI Box, Easy Jtag) พยายามจะส่งข้อมูล Logic '1' (ซึ่งมีแรงดันไฟฟ้า เช่น 1.8V) ออกไปทางขา TX แต่สายนั้นถูกบังคับให้เป็น 0V เพราะต่ออยู่กับกราวด์ จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าจำนวนมากไหลผ่านวงจรภายในของโปรแกรมเมอร์ ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายได้

## ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
พอร์ตของโปรแกรมเมอร์เสียหายถาวร: การลัดวงจรซ้ำๆ หรือเป็นเวลานาน สามารถทำให้ชิปที่ควบคุมพอร์ต TX/RX ภายในกล่องโปรแกรมเมอร์ร้อนจัดและไหม้ได้ ทำให้พอร์ตนั้นใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

การเชื่อมต่อล้มเหลว: การลัดวงจรจะดึงแรงดันไฟของระบบให้ตกลง ทำให้การสื่อสารทั้งหมดไม่มีเสถียรภาพและล้มเหลวในที่สุด

อาจสร้างความเสียหายให้อุปกรณ์เป้าหมาย: แม้จะเกิดได้ยากกว่า แต่การที่ระบบไฟไม่เสถียรก็มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ฝั่งตรงข้ามได้เช่นกัน

## หน้าที่จริงๆ ของ TX และทำไมถึงไม่จำเป็นต้องต่อ (ในบางความเชื่อที่ผิด)
ความเข้าใจผิดอาจเกิดจากการที่บางครั้งในการสื่อสารแบบทางเดียว (One-way) เช่น การดึงข้อมูล (Read/Dump) อย่างเดียว เราอาจรู้สึกว่าฝั่งโปรแกรมเมอร์มีหน้าที่ "รับ" (Receive) เป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว...

TX มีหน้าที่ส่ง "คำสั่ง" ไปก่อนเสมอ!

ก่อนที่โปรแกรมเมอร์จะรับข้อมูลอะไรได้ มันต้องส่งคำสั่งผ่านทางขา TX ของมัน ไปยังขา RX (Receive) ของอุปกรณ์เป้าหมายก่อนเสมอ เช่น:

"ขอข้อมูลหน่อย" (Send Identity)

"เริ่มอ่านข้อมูลที่ตำแหน่ง X" (Read Block X)

"เปลี่ยนไปใช้โหมดความเร็วสูง" (Switch to High-Speed Mode)

ดังนั้น การเชื่อมต่อที่ถูกต้องคือ Programmer TX -> Target RX เสมอ หากไม่มีการเชื่อมต่อนี้ ก็จะไม่สามารถเริ่มต้นการสื่อสารได้เลย

## อะแดปเตอร์และ UFS (Universal Flash Storage)
สำหรับ UFS ซึ่งเป็นการสื่อสารความเร็วสูงยิ่งกว่า eMMC หลักการนี้ยิ่งสำคัญครับ การเชื่อมต่อที่ไม่ถูกต้อง เช่น การกราวด์สายสัญญาณ จะทำลาย Signal Integrity (ความสมบูรณ์ของสัญญาณ) ทำให้การสื่อสารล้มเหลวทันที

อะแดปเตอร์ มีความจำเป็นไม่ใช่เพื่อการกราวด์สาย แต่เพื่อ การแปลงระดับแรงดันไฟฟ้า (Voltage Level Shifting) ครับ

ตัวอย่าง: โปรแกรมเมอร์อาจใช้ไฟ 3.3V แต่ชิป UFS บนมือถือรุ่นใหม่ๆ อาจใช้ไฟเพียง 1.8V หรือ 1.2V การต่อตรงจะทำให้ชิปเสียหายได้ อะแดปเตอร์จะทำหน้าที่แปลงระดับแรงดันของสัญญาณให้ตรงกันทั้งสองฝั่ง

ข้อสรุปที่สำคัญที่สุด 🧠
อย่าต่อสาย TX ลงกราวด์ หากไม่ได้ใช้งานสายใด ให้ปล่อยสายนั้นทิ้งไว้เฉยๆ (No Connect - NC) การเชื่อมต่อที่ถูกต้องคือการไขว้สาย TX -> RX และ RX -> TX ระหว่างอุปกรณ์เสมอ

ขอบคุณที่นำเสนอข้อมูลดีๆ เพื่อเป็นความรู้และเตือนใจครับ การเรียนรู้และทำความเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง คือหัวใจของการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครับ!
  • เพิ่มเติม...
    • Share
    • Share

การกระทำของผู้ใช้
พิมพ์
ขึ้น หน้า1
  • Knotthailand Forum
  • ► BOX UFS EMMC
  • ► F64 ULTRA
  • ► เทคนิค โม ISP ให้แรงๆ
การกระทำของผู้ใช้
พิมพ์
  • ช่วยเหลือ | ข้อตกลงและเงื่อนไข | ขึ้น ▲
  • SMF 2.1.4 © 2023, Simple Machines
    Simple Audio Video Embedder
    SMFAds for Free Forums Theme by Webtiryaki